Monthly Archives :

August 2019

1024 1016 admin csb

เส้นใยธรรมชาติ เส้นใยเซลลูโลส

เป็นกลุ่มเส้นใยที่ได้จาก พืช เช่น ฝัาย ลินิน ป่าน ปอ โครงสร้างของโมเลกุลประกอบด้วยกลุ่ม แอนไฮโดรกลูโคส เกาะ เกี่ยวกันเป็นสายโซ่ยาว โมเลกุลใหญู่ สายโมเลกุลนี้รวมกันจำนวนมากจะเกิดเป็นเส้นใยและยิ่ง มีความยาวมาก จะมีผลทำให้เซลลูโลสมีความเหนียวมากขึ้น โซ่โมเลกุลจะยาวมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนโมเลกุลกลูโคส กลูโคสแต่ละหน่วยประกอบด้วยคาร์บอน 44.4% ไฮโดรเจน 1.2% และอ๊อกซิเจน 49.4%

การจัดเรียงตัวของโมเลกุลเซลลุโลสนั้นบางตอนก็ขนานกัน เป็นระเบียบเรียกว่า Crytalline บางตอนเรียงกันไม่เป็นระเบียบ พันกันสะเปะสะปะไปมาเรียกว่า Amophous การเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ของโมเลกุลเซลลูโลสจะทำให้เกิดช่องว่างแทรกอยู่ระหว่างโมเลกุลกันละกันทำให้การยึตเกาะกันระหว่างโมเลกลุล มีน้อย เส้นใยขาดความแข็งแรง ส่วนโมเลกุลเซลลูโลสที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบ จะทำให้เส้นใย มีความแข็งดี ยืดตัวออกได้น้อย มีแรงยึดเกาะระหว่างโมเลกุลข้างเคียงด้วย Hydrogen bond ความยาวของหน่วยโมเลกลเซลลูโลสที่ต่อกันขื้นอยู่กับชนิดและพื้นฐานดั้งเดิมของเซลลูโลส

จากโครงสร้างโมเลกุลกลูโคส ซึ่งยึดเกาะกันเป็นสายโมเลกลเซลลูโลส จะเห็นว่าโมเลกุลกลูโคสจะมีหมู่ – OH อยู่หลายแห่ง ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดปฏิกิริยาเคมีกับเส้นใยได้ เช่น ปฏิกริยากับสีย้อมสารตกแต่ง การดูดความซื้น โดยหมู่ – OH จะยืดจับกับโมเลกุลของน้ำที่ ผ่านเข้ามาในเส้นใยได้ดี

1024 1024 admin csb

“ฟิลาเจน” นวัตกรรรมเส้นใยคอลลาเจน

“ฟิลาเจน” นวัตกรรรมเส้นใยคอลลาเจน
ที่ผสมผสานสารสกัดคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกเข้ากับเส้นใยผ้า ทำให้มีคุณสมบัติสามารถปกป้องกลิ่นกาย ป้องกันรังสียูวี ให้อุณหภูมิผิวสัมผัสที่เย็น และให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย เพียงแค่สวมใส่ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเส้นใยฟิลาเจน ผู้เชี่ยวชาญด้านนาโนเทคโนโลยีจากประเทศไต้หวัน ได้วิจัยแล้วพบว่า สารสกัดคอลลาเจนที่ได้จากเกล็ดปลาทะเลน้ำลึกมีคุณภาพดีกว่าคอลลาเจนที่สกัดจากวัว จึงได้เลือกใช้สารสกัดดังกล่าวผสมผสานเข้าไปในเส้นใยวิสโคสเรยอน ให้กลายเป็นเส้นใยเพื่อสุขภาพและความงาม ซึ่งได้มีการทดลองด้วยการนำเอามะเขือเทศที่มีคุณสมบัติคล้ายกับผิวของมนุษย์มากที่สุด มาห่อหุ้มด้วยผ้าฟิลาเจนและผ้าธรรมดาเพื่อเปรียบเทียบกัน เป็นระยะเวลา 30 วัน พบว่า มะเขือเทศที่ห่อหุ้มด้วยผ้าฟิลาเจนผิวยังคงเต่งตึง ในขณะที่มะเขือเทศที่ห่อหุ้มด้วยผ้าธรรมดา กลับมีผิวที่สูญเสียความชุ่มชื้น เหี่ยวย่นกว่า โดยคุณสมบัติของผ้าที่ใช้เส้นใยจากฟิลาเจนนั้น สามารถป้องกันรังสียูวีได้สูงสุดถึง *UPF50 อีกทั้งยังปกป้องกลิ่นกาย ให้ผิวสัมผัสที่เย็นพอเหมาะกับร่างกาย และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณตามแบบฉบับคอลลาเจน นอกจากนี้ยังไม่เสื่อมสลายแม้ผ่านการซักล้างแล้ว

1019 1024 admin csb

นวัตกรรมสิ่งทอจากธรรมชาติสู่เฟอร์นิเจอร์และเครื่องนุ่งห่ม

ปอกระเจา
ต้นปอกระเจา จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก อายุได้ 1 ปี มีความสูงได้ประมาณ 1 เมตร ลำต้นเป็นสีเขียวอ่อนหรือแดงเข้ม แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่ม เป็นไม้เนื้ออ่อน มีระบบรากเป็นแบบรากแก้ว ที่ประกอบไปด้วยรากแก้วและรากแขนง ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์ในอินเดีย จีน ญี่ปุ่น พม่า เวียดนาม มลายูภาคใต้ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย กาญจนบุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี อ่างทอง กรุงเทพฯ พังงา พรรณไม้ชนิดนี้มักขึ้นตามบริเวณที่ชื้นแฉะ ทนทานน้ำท่วมได้ดี

สำหรับในอุตสาหกรรมสิ่งทอเส้นใยจากเปลือกต้นเมื่อลอกออกมาแล้วจะเรียกว่า “ปอ” สามารถนำไปใช้ทอกระสอบเพื่อใส่ผลิตผลทางการเกษตรได้ เช่น ข้าวสาร ข้าวโพด น้ำตาล หรือนำมาใช้ทอเป็นผ้า พรม ทำเยื่อกระดาษ ทำเชือก เป็นต้น นอกจากนี้ลำต้นและแกนปอยังสามารถนำไปผลิตเป็นเยื่อกระดาษ ตลอดจนไม้เนื้อเบาได้ดีอีกด้วย แต่ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องของตลาดและการแข่งขันกับพืชชนิดอื่น

ผ้าลินิน
“ผ้าลินิน” เนื้อผ้าที่ผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ 100% สีที่ได้จากผ้าลินินส่วนมากก็จะเป็นสีแนวธรรมชาติ เช่นสีขาวครีม สีเอิร์ธโทน เป็นต้น เป็นผ้าที่ช่วยระบายความร้อนให้กับร่างกายเราได้และกำลังเป็นที่นิยมในการตัดเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น

ผ้าลินินส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กับผ้าฝ้าย ซึ่งมีความแตกต่างกันแค่เล็กน้อย คือผ้าลินิน จะเหนียวทนกว่าผ้าฝ้าย ยืดหดตัวได้น้อยกว่าเส้นใยหักและยับง่าย ดูดซึมน้ำได้ดีกว่า เมื่อสวมใส่จะให้ความรู้สึกเย็นสบายกว่า ผ้าลินินจะเหมือนเคลือบด้วยแป้ง ยิ่งซักบ่อยๆเนื้อผ้าจะยิ่งดูใหม่เสมอ ผ้าลินินมีหลายชนิด ตั้งแต่เนื้อละเอียดบางจนถึงเนื้อหยาบหนา เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นผ้าปูโต๊ะ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดปาก ผ้าเช็ดตัว ผ้ากันเปื้อน ผ้าตัดเสื้อหน้าร้อน ผ้าม่าน ฯลฯ แต่ราคาค่อนข้างแพง

ผ้าฝ้าย
ผ้าฝ้าย หรือเรียกจากคำภาษาอังกฤษของผ้าฝ้ายว่า ค๊อตต้อน (COTTON) เป็นผ้าที่ใช้กันมากที่สุดในบรรดาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เหมาะสมสำหรับการสวมใส่ในช่วงที่มีอากาศร้อนในฤดูร้อน หรือสามารถสวมใส่ได้ทุกวันกับประเทศที่ภูมิอากาศร้อนชื้นทั้งปี เพราะในเนื้อเส้นใยฝ้ายนั้นสามารถซึมซับเหงือและระบายออกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ผ้าฝ้ายทำมาจากใยฝ้าย ซึ่งได้จากต้นฝ้ายที่สามารถปลูกขึ้นได้ดีในแถบที่มีอากาศอุ่นชื้นและมีแดดจัด เมื่อผลฝ้ายแก่จัดแล้ว ผลจะแตกมีใยเป็นปุยขาว จึงเก็บมาแยกเอาเปลือกและเมล็ดออก แล้วนำไปปั่นเป็นเส้นใยและเส้นด้าย จึงจะสามารถทอเป็นผืนผ้าได้แล้วจึงจะสามารถใช้ประโยนช์จากผ้าฝ้ายได้ โดยการนำมาตัดและเย็บเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอย่างเช่น เสื้อยืด
ผ้าฝ้ายมีเนื้อค่อนข้างเหนียว ไม่ค่อยยืดหยุ่น ยับง่าย หดง่าย ดูดซึมน้ำได้ดี ระบายอากาศและความร้อนได้ดี ซักรีดและทำความสะอาดง่าย ทนความร้อนได้ดี สามารถรีดด้วยความร้อนสูงได้ ผ้าฝ้ายมีหลายเนื้อ ตั้งแต่เนื้อบางเบา จนกระทั่งถึงเนื้อหนาหนัก เลือกใช้ได้ตามความต้องการ เช่น ผ้าฝ้ายที่เป็นผ้าสาลู เหมาะที่จะใช้ทำเป็นผ้ากรอง ทบ 2 ชั้น ทำเป็นผ้าอ้อม ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดถ้วยชาม ผ้าฝ้ายเนื้อบางเนื้อดี เหมาะสำหรับตัดเสื้อผ้าหน้าร้อน ผ้าฝ้ายเนื้อค่อนข้างหนา เช่น ผ้ากำมะหยี่ ผ้าลูกฟูก ผ้ายีน ใช้ตัดเสื้อผ้าที่ต้องการความอบอุ่นและแข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้ยังเหมาะที่จะใช้ทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าห่มเด็ก ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าชนิดอื่น ๆ ได้อีกมากมายหลายชนิด นับเป็นผ้าที่ใช้ได้ดีและใช้ ประโยชน์ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในประเทศที่มีอากาศร้อน เช่น ประเทศไทยเรา

ผ้าใยกล้วย (BANANA FABRICS)
“กล้วย” พืชท้องถิ่นประจำบ้านของใครหลายคน มีบทบาทในชีวิตประจำวัน ของผู้คนเป็นจำนวนมาก
“เส้นใยกล้วย” มีสมบัติพิเศษคือ เป็น เส้นที่มีความมันเงาสวยงาม แข็งแรง เหนียว ทนทาน สามารถนาไปปั่นผสมกับเส้นใยอื่นๆ เช่นใยฝ้าย ที่มีความคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องการระบายอากาศและอ่อนนุ่ม
การผลิตเส้นใยกล้วยเป็นการนำเอากาบกล้วยจากบริเวณลำต้นมาพัฒนาเป็นเส้นใย กระบวนการผลิตจะนำกาบกล้วยที่ได้มาเข้าเครื่องขูดเนื้อเยื่อกาบกล้วย เพื่อนำเส้นใยไป ผ่านกระบวนการทางเคมีสิ่งทอ หลังจากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตเป็นเส้นด้ายแล้วนำไปทอเป็นผืนผ้าต่อไป
เส้นใยกล้วยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านสิ่งทอได้ ทั้งทำเป็นเส้นใย 100 เปอร์เซ็นต์ และผลิตเป็นเส้นด้ายใยผสมกับเส้นใยธรรมชาติจากพืช (ฝ้าย) คุณลักษณะของเส้นด้ายที่ผลิตได้นั้นจะมีความอ่อนนุ่ม มัน ส่วนความเหนียวจะแปรตามอัตราส่วนที่ใช้ผสม
อัตราส่วนที่ดีที่สุดคือ อัตราส่วนผสมใยกล้วย : ฝ้าย = 50 : 50 (โดยน้ำหนัก) เมื่อนำเส้นด้ายที่ทดลองไปย้อมสี ทั้งเส้นใย 100 เปอร์เซ็นต์ และเส้นด้ายผสม มีความสามารถในการดูดซึมสีได้ดี- นำเส้นใย 100 เปอร์เซ็นต์ และเส้นด้ายผสมที่ย้อมสีแล้ว ไปทดลองทอเป็นผืนผ้า สามารถทอเป็นผืนผ้าได้ และทดลองผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก็สามารถผลิตได้หลายรูปแบบ และมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน (จากการศึกษาอายุการเก็บ)
เนื้อผ้าที่ผลิตจากใยกล้วย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้เส้นยืนเป็นไหม ค่อนข้างแข็งกระด้าง แต่มีความมันสวยงาม ส่วนผืนผ้าจากใยกล้วยผสม จะมีความอ่อนนุ่ม แต่มีความมันน้อยกว่า

จากการศึกษาเรื่องเส้นใยพบว่า เส้นใยที่ใช้กันอยู่โดยทั่วไปมีมากมายหลายชนิด ที่ได้มาจากพืชโดยได้มาจากส่วนต่าง ๆ ของพืช โดยได้เส้นใยจากส่วนที่เป็นเมล็ด ใบ และลำต้น เช่น ใยฝ้าย ใยลินิน และใยสับปะรด เป็นต้น ดังนั้น ต้นกล้วยน่าจะเป็นพืชชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาแยกเส้นใยได้เช่นเดียวกัน จึงทำการทดลองแยกเส้นใยจากส่วนที่เป็นกาบกล้วย ด้วยวิธีการแยกแบบหัตถกรรม แล้วนำมาผลิตเป็นผืนผ้าด้วยเครื่องทอมือ และเส้นพวกนี้มาจากธรรมชาติผ่านกรรมวิถี ภูมิปัญญาต่างๆ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆขึ้นสำหรับ ของใช้ ของตกแต่งและเสื้อผ้าสวมใส่

1016 1024 admin csb

ผ้าต้านแบคทีเรีย ( เชื้อรา )

ผ้าต้านแบคทีเรีย (เชื้อรา) สารต้านแบคทีเรียประเภท นาโนพาร์ทิเคิล (Nano-particles) และไมโครพาร์ทิเคิล (Micro-particles) ที่นิยมในท้องตลาด

1. สารต้านแบคทีเรียประเภท นาโนพาร์ทิเคิล (Nano-particles) ที่นิยมในท้องตลาด
1.1 Nano-Silver
เป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ดีมาก การทำงานของสาร Nano-Silver คือการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราจนทำให้เซลล์ของเชื้อตายลง
ข้อเสียของสาร คือ อาจทำให้ผ้าสีขาวหรือสีอ่อนเฉดคล้ำลงได้เนื้อจากออกไซด์ของสาร Nano-Silver ที่มีสีดำ
1.2 Nano-Titanium Dioxide (Anatase)
เป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อราและเชื้อไวรัสบางกลุ่มได้ดีมาก การทำงานของสาร Nano-Titanium Dioxideประเภท Anatase คือการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อราและเชื้อไวรัสบางกลุ่ม โดยการทำงานของสาร Nano-Titanium Dioxideประเภท Anatase นั้นจะทำงานได้มีประสิทธิ์ภาพที่ดีมากจะต้องมีแสง UV กระตุ้นด้วยที่ความถี่ 390 nm. และการตกแต่งด้วยสาร Nano-Titanium Dioxide (Anatase) ยังสามารถทำให้เกิดฟังก์ชั่นผ้าที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้อีกด้วย (Self-cleaning)
ข้อเสียของสาร คือ เมื่อสารเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นอาจทำลายสารช่วยยึดติด (Binder) ของตัวเองได้ ทำให้การทนต่อการซักของผ้าลดน้อยลง
1.3 Nano-Zinc Oxide
เป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อราที่ดีมาก ราคาถูกกว่า Nano-Silver ประมาณ 3-5 เท่าเนื่องจากสาร Zinc มีราคาถูกกว่า Silver มาก อีกทั้ง Zinc ยังเป็นสารที่มนุษย์เราต้องการ คือ ประมาณวันละ 15 mg สตรีให้นมบุตร วันละ 25 mg สาร Nano-Zinc Oxide จึงดูเป็นสารที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคกว่าสารอื่นๆ

2. สารต้านแบคทีเรียประเภท ไมโครพาร์ทิเคิล (Micro-particles) ที่นิยมในท้องตลาด
2.1 สาร Zinc pyrithione เหมาะกับเส้นใยทุกชนิด ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ดีมาก สามารถลงได้ทั้งกระบวนการ Coating, Exhaust (กับ Polyester) และ Padding
2.2 สาร PHMB (Polyhexamethylenebiguanide) เหมาะกับเส้นใยประเภท เซลลูโลส, เส้นใยโปรตีน และเส้นใยเซลลูโลสผสมเส้นใยอื่นๆ เป็นสารที่ใช้ตกแต่งผ้าเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ดี
สามารถลงได้ทั้งกระบวนการ Exhaust และPadding
2.3 สาร Triclosan เหมาะกับเส้นใยทุกชนิด ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ดีมาก สามารถลงได้ทั้งกระบวนการ Exhaust และ Padding
2.4 สาร Quat Silane เหมาะกับเส้นใยประเภท เซลลูโลส, เส้นใยโปรตีน, เส้นใยเซลลูโลสผสมเส้นใยอื่นๆ เป็นสารที่ใช้ตกแต่งผ้าเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ดี สามารถลงได้ทั้งกระบวนการ Exhaust และ Padding

การตกแต่งสำเร็จยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
เป็นการตกแต่งสิ่งทอที่กำลังได้รับความนิยมมากในขณะนี้ โดยกลุ่มสารประเภทออกไซด์ของโลหะที่มีอนุภาคขนาดนาโน เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์ (TiO2) ซิลเวอร์ออกไซด์ (AgO) ซิงค์ออกไซด์ (ZnO) และไคโตซาน ซึ่งเป็นสารที่ได้มาจากธรรมชาติจากเปลือกกุ้ง หอย และแกนหมึก เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้บางชนิดมีความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต และ บางชนิดมีความสามารถในการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง (Photocatalytic) ซึ่งสามารถนำไปใช้ย่อยสลายอนุภาคสารอินทรีย์ที่มาเกาะติดที่เสื้อผ้าหรือพื้นผิววัสดุต่างๆ รวมถึงกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นกาย และยังสามารถฆ่าแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวหนัง เช่น Staphylococcus aureus, Escherichia E. coli ซึ่งเมื่อสะสมมากๆ และร่างกายอ่อนแอจะเป็นสาเหตุให้เกิดสิว ฝี และการติดเชื้อที่บาดแผล

1024 1021 admin csb

ผ้าใยขนสัตว์

ประวัติความเป็นมาของเส้นใยขนสัตว์

ประวัติความเป็นมาของขนสัตว์ในยุคหินเก่านั้นได้สูญหายไปเป็นเวลานานแล้ว แต่ได้กล่าวถึงเพียงว่ามีการใช้หนังแกะ และขนเเกะมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนที่จะมีการค้นพบวิธีการปั่นเส้นใยขน สัตว์เป็นเส้นด้ายและการทอเป็นผืนผ้า และไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันว่าขนสัตว์(ขนแกะ)เป็นเส้นใยชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักใช้

คุณสมบัติของเส้นใยขนสัตว์

เส้นใยขนสัตว์เป็นส่วนหนึ่งของหนังสัตว์ มีสารโปรตีนที่เรียกว่า เคราติน (Keratin) เป็นสารประกอบทางเคมีสมบูรณ์ เคราตินนั้นประกอบไปด้วยกรดอมิโนประมาณ 18 ชนิด ต่อเชื่อมกันเป็นโซ่ยาว เรียกว่า polypeotide chain มีซีสเตอีน ที่เป็นหมู่ของ thiol(SH) ไธออล เกิดเป็น difulfide bond เป็นตัวเชื่อมโปรตีนชนิดนี้ จะมีธาตุกำมะถันในโมเลกุล มีลักษณะโมเลกุลเป็นสายยาวและบิดเกลียวทุกสายโดยขนานกันเเละยึดเกาะกันด้วย ไฮโดรเจนบอนด์ (Hydrogen bond) การเรียงตัวของโมเลกุลไม่เป็นระเบียบนัก จากการเชื่อมของซีสตินที่มีธาตุกำมะถันในโมเลกุล และการเรียงตัวของโมเลกุลที่ไม่เป็นระเบียบนี้ ทำให้เส้นใยขนสัตว์มีคุณสมบึตยืดหยุ่นดีไม่ยับง่ายและคืนตัวได้ดี

ผ้าขนสัตว์กับประโยขน์ในการใข้สอย

ผ้าขนสัตว์มีประโยชน์ใช้สอยมากโดยเฉพาะประเทศในเเถบที่มีอากาศหนาวเย็น นิยมใช้ตัดเสืัอผ้าชั้นดี เช่น สูท เสื้อโคท ผ้าขนสัตว์มีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ เช่น ยืดหยุ่นได้ดี ไม่ยับง่าย ดูดซึมน้ำและความชื้นได้ดี ไห้ความอบอุ่นต่อผู้สวมใส่ รีดง่ายปรับเข้ารูปทรงได้ดี เหมาะสำหรับการซักแห้งมากกว่าการซักเปียก เพราะเส้นใยยืดหดทำให้เสียรูปทรงได้ง่าย

การดูแลรักษาทำความสะอาดผ้าขนสัตว์

เมื่อเสื้อขนสัตว์เปื้อนสิ่งสกปรก หรือฝุ่นละออง ควรใช้แปรงปัดออกเบาๆ สิ่งสกปรกและฝุ่นละอองจะหลุดออกได้ง่าย แต่ถ้าหากเปื้อนน้ำก็ใหัรีบสะบัดออก แล้วจึงใช้แปรงทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่งเมื่อแห้ง แป้งที่ใช้ควรมีขนที่อ่อนนุ่ม ควรแปรงในขณะการซักแห้งเท่านั้น เมื่อต้องการเก็บรักษาขนสัตว์ไว้นานๆ ควรทำความสะอาดด้วยการซักแห้งจะดีที่สุด ถ้าจำเป็นต้องซักเปียก ควรรักด้วยสบู่หรือผงซักฟอกอย่างอ่อนกับน้ำอุ่น ใช้มือขยำเบาๆ ไม่บิด ไม่ควรแช่ผ้าไว้ในน้ำซักนานๆ เส้นใยจะหดตัวชั่วคราว ถ้าจะใช้สารฟอกขาวควรใช้อย่างอ่อน เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ไม่ควรใช้สารฟอกขาวประเภทคลอรีนจะทำให้เส้นใยขนสัตว์เสื่อมคุณภาพ การตากควรตากบนพื้นราบ รองด้วยผ้าขนหนู เพื่อช่วยซับน้ำออก จัดรูปทรงเสื้อให้ดูดี ไม่ควรแขวนตากจะทำให้เสื้อผ้าขนสัตว์ยืดเสียรูปทรง ควรตากในที่ร่มมีลมโกรก ไม่ควรตากแดด การรีดโดยใช้ความร้อนชื้น ควรใช้ผ้าปิดทับบนผ้าขนสัตว์ แล้วจึงรีดกด ไม่ควรรีดไถแรงๆ จะทำให้ผ้ายืดได้ อุณหภูมิของเตารีดควรอยู่ในอณหภูมิต่ำหรือปานกลาง ถ้าใช้ความร้อนสูงผ้าจะแข็งกร้านและจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง

1020 1024 admin csb

เนื้อผ้าที่นำมาตัดเสื้อยืด

ชนิดผ้าที่เหมาะทำมาผลิตเป็นเสื้อยืดก็จะมีอยู่ไม่กี่ชนิด แต่นำมาผสมกันแล้วก็เรียกเป็นชื่อใหม่ โดยดาวเด่นแห่งวงการที่ต้องพูดถึงเป็นคนแรกก็ ได้แก่

– ผ้าฝ้าย หรือที่เรียกกันว่า Cotton 100% เป็นผ้าที่เกิดจากใยฝ้ายธรรมชาตินำมาทอให้เกิดเป็นผ้า กลายเป็นผ้ายอดฮิตของประเทศเรา เพราะมันช่างเหมาะกับอากาศบ้านเราอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติหลักที่ระบายความร้อนได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ

คุณสมบัติ
การระบายอากาศ “เยี่ยมยอด!” ส่วนตัวผมคิดว่า ในบรรดาผ้าที่ใช้ทำเสื้อยืดทุกชนิด ผมก็ชอบ Cotton มากที่สุด เพราะจุดเด่นเรื่องการระบายความร้อนที่ดี ใส่แล้วไม่อบ เว้นแต่คุณไปใส่ออกตากแดดเหงื่อก็ออกอยู่ดีนะ
ซักแล้วหด “หดแน่นอน” หดมากหดน้อยก็แล้วแต่ร้าน(ไม่หดแสดงว่าไม่ใช่ Cotton 100%) เรื่องความหดต้องแล้วแต่บรรดาโรงงานผ้าจริงๆ เพราะเค้าจะมีน้ำยาควบคุมความหด 3% บ้าง 5% บ้างแล้วแต่ราคาคุย จากที่เคยเจอมาก็มีทั้งแบบหดแค่รอบแรกที่ซักแล้วไม่หดอีก ซวยมากหน่อยก็มีหดรอบสองรอบสาม เต่อจนใส่ไม่ได้ ฉะนั้นในฐานะผู้ผลิตถ้าจะเลือกผ้า Cotton ทางที่ดีก็ต้องตัดมายาวเผื่อหดไว้จะดีกว่าครับ
ความนุ่ม “บางร้านก็นุ่มจริง บางร้านก็นุ่มหลอก” เท่าที่ทราบมา โรงงานจะมีน้ำยาที่ย้อมให้เกิดความนุ่ม เช็คยากมาก เพราะมันก็มีการย้อมหลอกๆ คือตอนเราจับจะนุ่มมือ แต่พอเอาไปซักความนุ่มก็หายไปแม้จะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็ไม่ช่วย
ราคา “เทียบกันแล้วในบรรดาผ้าที่ใช้ทำเสื้อยืด ราคาสูง”

เทคนิคที่เหมาะสำหรับการผลิต
ซิลค์สกรีน ไม่ว่าจะเป็นสีลอย,สีจม สกรีนได้หมด
ปริ้นสกรีน

ผ้าแบบโพลีเอสเตอร์ 100% หรือที่เรียกกันในวงการว่า ผ้า TK เป็นผ้าเส้นใยสังเคราะห์จากฝีมือมนุษย์สร้างขึ้น ชื่อก็บอกเป็นนัยๆแล้วว่าผลิตมาจาก พวกพลาสติก ด้วยความที่มันเป็นพลาสติก มันจึงเอาไปผสมกับฝ้ายได้ ตามสัดส่วนต่างๆ แล้วก็แตกหน่อออกมาเป็นผ้าชนิดอื่นๆ
ความเก๋ของมันก็คือ มันเป็นผ้าที่ไม่ค่อยยับ คืนรูปง่าย ดังนั้นซักมาแล้วแทบไม่ต้องรีดก็ใส่ได้เลย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยซับน้ำ(แต่ก็ซักได้นะ) เนื้อผ้าจะมีลักษณะมันเงา ข้อเสียที่เด่นๆก็คือ ใส่ไปเรื่อยๆผ้าอาจจะขึ้นขุยได้
เนื้อผ้าชนิดนี้ก็เป็นที่นิยม เพราะความราคาถูกของมันในบรรดาชนิดผ้าทั้งหมด ส่วนใหญ่ถูกใช้ทำเป็นเสื้อแจกฟรี

คุณสมบัติ
การระบายอากาศ “ออ บอ อบ! ระดับ 10” ส่วนตัวผมใส่แล้วร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัว มันจะหายใจไม่สะดวกไม่เต็มปอด รู้สึกอึดอัด ก็เอาพลาสติกมาทำเป็นเสื้อไม่ร้อนได้ไง ใส่แล้วเหงื่อจะออกทั่วๆตัว แต่ถ้าเอาไปใส่เดินห้างน่าจะไม่ร้อนเท่าไร คิดว่าถ้ายิ่งเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวน่าจะเป็นข้อดีได้นะครับ เพราะมันกักเก็บความร้อนอยู่ที่อก ความร้อนจะระบายออกตามรูผ้าไม่ได้
ซักแล้วหด “ไม่หดจ้า” ของแท้โพลี 100% ต้องไม่มีการหด ทรงเสื้อมาแบบไหน ซักเสร็จก็ทรงนั้น
ความนุ่ม “แข็งๆไม่นุ่ม ลื่นๆเงาๆ”
ราคา “ถูกจนทำเป็นเสื้อแถม คิดดู” เนื่องจากคุณสมบัติอีกหนึ่งอย่างคือ เนื้อผ้าโพลีจะมีลักษณะที่เบา และการซื้อขายผ้าจะคิดราคาเป็นกิโล พอผ้าเบาในขณะที่กิโลเท่ากัน ผ้าโพลีก็จะตัดเป็นเสื้อได้เยอะกว่า จึงเฉลี่ยต้นทุนต่อตัวได้ถูกลง

เทคนิคที่เหมาะกับการผลิต
ซิลค์สกรีน
พวกระบบทรานเฟอร์ต่างๆ

– ผ้า CVC เป็นผ้าที่นำ Cotton มาผสมกับ Poly ในอัตราส่วนของ Cotton ที่มากกว่า Poly
โดยอัตราส่วนยอดฮิตที่ร้านค้านิยมนำมาขาย คือ Cotton80: Poly20 หรือ Cotton60:Poly40
ผ้าชนิดนี้เรียกได้ว่าจับเอาข้อดีของแต่ละเนื้อผ้ามา Mix and Match ได้อย่างลงตัว คือ ตัวเนื้อผ้าจะยังคงมีความนุ่มแบบ Cotton มีการระบายความร้อนได้ดีแบบ Cotton อาจจะไม่ดีเท่า แต่ก็นำลักษณะพิเศษของ Poly เข้ามา คือ ผ้าจะหดน้อยลงหรือไม่หดเลยเมื่อมีการซัก

คุณสมบัติ
การระบายอากาศ “ถือว่าทำได้ดี” แม้จะระบายได้ไม่ดีเท่า Cotton แต่ก็ถือว่าเป็นน้องๆ
ซักแล้วหด “หดน้อยถึงไม่หดเลย” ด้วยการดึงเอาความเมพจุดเด่นของ โพลี มาผสมทำให้ผ้าชนิดนี้แข็งแรงต่อการซัก
ความนุ่ม “ก็นุ่มๆลื่นๆเงาๆ” ถ้าเป็นแค่คนซื้อ ไม่เทพจริงแยกไม่ออกหรอก ขอบอก
ราคา “น้องๆ Cotton ไม่ได้ถูกกว่ามาก”

เทคนิดที่เหมาะกับการผลิต: เหมือน Cotton 100%

– ผ้า TC เป็นเนื้อผ้าที่นำเอา Cotton มาผสมกับ Poly ในอัตราส่วนที่ Poly มากกว่า Cotton
โดยมีอัตราส่วนยอดฮิตที่ Cotton35:Poly65 ผ้า TC ก็เรียกได้ว่าเป็นคู่ตรงข้ามกับผ้า CVC โดยจับเอาข้อดีของเนื้อผ้า Poly มา เป็นหลัก แล้วนำจุดเด่นของ Cotton เข้าไปเสริม
มักนิยมนำไปใช้กับเทคนิคการผลิตแบบ Heat Transfer

คุณสมบัติ
การระบายอากาศ “มีความอบระดับ 5” ไม่ระบายความร้อนเท่าที่ควร ใส่เดินห้างสำหรับผมไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องเดินออกแดดนานๆก็มีอึดอัดอยู่เหมือนกัน
ซักแล้วหด “แทบไม่หดเลย” ได้จุดเด่นของคุณแม่ Poly มาเต็มๆ ความนุ่ม “นุ่มๆได้พ่อลื่นได้แม่” ความนุ่มได้มาจาก Cotton ความเงาและลื่นได้จาก Poly
ราคา “เบาสบายกว่า Cotton 100 แต่ก็ไม่ถูกเป็นขี้แบบ TK” แต่ถ้าหากสั่งไม่เยอะ ราคาจะไม่ต่างกันจนเห็นชัดนัก

เทคนิคที่เหมาะกับการผลิต : เหมือน TK

1018 1024 admin csb

การแบ่งเกรดผ้า Cotton

สิ่งแรกที่เราต้องรู้เกี่ยวกับ ผ้า Cotton หรือ ผ้าฝ้าย คือ เวลาที่ผ้าถูกทอออกมา ขนาดของเส้นด้ายจะไม่เหมือนกัน จึงมีการแบ่งเบอร์เรียก โดยทั่วไปได้ 3 เบอร์ คือ 20,32,40 ตามลำดับ สำหรับเบอร์เส้นด้ายที่สูงเกิน 40 ขึ้นไปจะพบเห็นได้ไม่มากนักในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้น เนื่องจากกระบวนการในการผลิต(ปั่นเส้นด้าย)ให้เส้นด้ายมีขนาดเล็กต้องอาศัยเครื่องจักรและการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีต้นทุนที่สูงในการผลิต เมื่อนำมาผลิตเสื้อยืดก็จะมีต้นทุนสูง และหากบวกกับต้นทุนในการส่งให้โรงรับสกรีนเสื้อ เพื่อสกรีนลาย ราคาต้นทุนก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก

ถ้าเบอร์น้อยจะใช้ด้ายเส้นใหญ่ เบอร์มากใช้ด้ายเส้นเล็ก เช่นผ้า Cotton 100% เบอร์ 20 เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าเบอร์ 32 เนื่องจากขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่า เบอร์ 20 จะนิยมเอาทำเสื้อโปโล ถ้าเป็นเสื้อยืดโดยส่วนใหญ่ในเมืองไทยที่นิยมใส่กันมากที่สุด คงจะเป็นเบอร์ 32 เพราะใส่แล้วสบายที่สุด ระบายอากาศได้ดีกว่าเบอร์อื่นๆ ส่วนเบอร์ 40 มักจะนำมาทำเสื้อสำหรับเด็กอ่อน หรือเสื้อที่เน้นความบางเป็นพิเศษ และเสื้อยืดแบรนเนมส์บางรุ่นเบอร์ที่สูงกว่า 40 จะเป็นเสื้อยืดที่ต้องสั่งทอผ้าขึ้นเป็นพิเศษ

คุณภาพของผ้า Cotton แบ่งเป็น 3 เกรด คือ
1. Cotton Combed หรือ Cotton Comb คุณภาพ = ดีมาก / ราคาสูง
2. Cotton Semi คุณภาพ = ดี / ราคาปานกลาง
3. Cotton OE คุณภาพ = พอใช้ / ราคาถูก
การแบ่งเกรดผ้าเริ่มตั้งแต่

1. พันธุ์ของฝ้ายที่เลือกใช้ พันธุ์ที่ดีจะให้เส้นใยที่ยาว เหนียวนุ่ม เมื่อนำมาปั่นเป็นเส้นด้ายจะทำให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณภาพดี
2. การคัดแยกคุณภาพหลังเก็บเกี่ยว
3. กระบวนการผลิต

กระบวนการผลิตเส้นด้าย
เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อผ้า เพื่อให้ได้เส้นใยที่มีคุณภาพทั้งในด้านการเรียงตัวของด้ายที่มีความหนาแน่น สม่ำเสมอและกำจัดสิ่งสกปรกแปลกปลอมออกจากเส้นใยเพื่อให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณสมบัติที่ดี เมื่อไปทอเป็นผ้าผืน ทำให้สามารถแบ่งเกรดผ้าฝ้ายที่ผ่านกระบวนการผลิตได้ 3 เกรดคือ

Cotton Comb ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าแบบการสาง ทำให้ได้ผลผลิตเป็น เส้นด้ายที่มีขนาดเล็ก (เบอร์ 32 ขึ้นไป) และสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่า รวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้า Cotton ที่เนื้อดีมีความนุ่ม และกระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน จัดได้ว่าเป็นประเภทที่มีคุณภาพดีที่สุด

Cotton Semi ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยครื่องจักรทำให้ได้ผลผลิตเป็นเส้นด้ายใยสั้น ที่มีขนาดใหญ่ (เบอร์ 20 – 32) และมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง

Cotton OE ไม่ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพของเส้นใยฝ้าย เสื้อยืดที่ผลิตจาก Cotton ชนิดนี้จะมีความกระด้างกว่าอีกสองประเภทรวมถึงความเหนียวทนต่ำขาดง่าย เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด และมีราคาถูกสุด เนื่องจากต้นทุนในการใช้เครื่องจักรและกระบวนการในการผลิตจากเส้นใยฝ้ายเป็น เส้นด้ายต่ำสุด

1016 1024 admin csb

6 เคล็ดลับในการเลือกซื้อเสื้อผ้า

1. เลือกที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ
การซื้อเสื้อผ้าที่ราคาถูกเป็นจำนวนมากจะทำให้คุณต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ บ่อยกว่าที่จำเป็น ซึ่งก็หมายความว่าคุณจะต้องใช้เงินไปกับเสื้อผ้ามากขึ้น การลงทุนซื้อเสื้อผ้าที่มีคุณภาพจึงคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าจำพวกสูท กางเกงสแล็ค หรือที่ผลิตจากหนัง เสื้อผ้าที่มีคุณภาพจะมีเนื้อผ้าดีกว่า และการตัดเย็บก็แข็งแรงทนทานกว่า

2. เลือกสไตล์แทนแฟชั่น
เทรนด์เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่สไตล์จะอยู่ตลอดกาล เพราะสไตล์คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณ ไม่ว่าแฟชั่นตอนนี้จะเป็นแบบไหน คุณก็ยังคงเป็นตัวของตัวเองได้ การซื้อเสื้อผ้าที่มีรูปแบบและสีสันที่ตามแฟชั่นมากเกินไป โดยที่ไม่ส่งเสริมหรือสะท้อนความเป็นตัวคุณอาจจะฟังดูเป็นเรื่องสนุก แต่เสื้อผ้าเหล่านี้จะอยู่ในตู้เสื้อผ้าของคุณได้ไม่นาน การซื้อเสื้อผ้าที่คุณนำออกมาใส่ได้บ่อย ๆ หรือนำมาจับคู่กับเสื้อผ้าอื่น ๆ ได้จึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า

3. หาเอกลักษณ์ที่เป็นตัวคุณ
ไม่ว่าคุณจะชอบใส่กางเกงกับเสื้อเบลเซอร์ หรือใส่กระโปรงกับเสื้อเบลาส์ การที่คุณรู้ว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่ตัวเองใส่แล้วมั่นใจ หรือแบบไหนที่มักจะดึงดูดคุณให้เข้าไปหาเสมอ สามารถช่วยเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเสื้อผ้าของคุณได้

4. จัดระเบียบเสื้อผ้า
จัดระเบียบตู้เสื้อผ้าของคุณ โดยแบ่งเสื้อผ้าตามสี ประเภท และรูปแบบ ถ้าคุณพบว่าคุณมีกางเกงสีดำอยู่ 6 ตัว หรือเสื้อสีเทาที่เหมือนกันอยู่ 5 ตัว มันอาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องทำให้มันมีความหลากหลายขึ้น การที่มีแต่เสื้อผ้าแบบเดียวกันซ้ำ ๆ เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเงิน การจัดการตู้เสื้อผ้าจะทำให้คุณเห็นว่าอะไรที่คุณยังขาด และอะไรที่มีมากเกินไป

5. คิดถึงประโยชน์ที่หลากหลาย
อย่าซื้ออะไรที่สามารถนำไปใส่กับเสื้อผ้าตัวอื่นได้แค่ชุดเดียว มันเป็นการจำกัดการสร้างสรรค์ลุคใหม่ ๆ พยายามหาเสื้อผ้าที่คุณใส่แล้วส่งเสริมตัวคุณ มองหาเสื้อที่สามารถใส่ได้ทั้งกับกระโปรงและกางเกง หรือใส่ได้แม้ในฤดูที่ต่างกัน การคิดถึงประโยชน์ที่หลากหลายจะทำให้คุณสามารถใช้เสื้อผ้าที่มีอยู่แล้ว มาแต่งตัวในลุคที่ต่างกันได้มากขึ้น

6. เลือกสิ่งที่ใส่แล้วสบาย
รองเท้าส้นสูง 5 นิ้วอาจจะน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ถ้าคุณไม่สามารถใส่มันได้นานเกิน 15 นาที โดยไม่รู้สึกเจ็บเท้า คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีมัน การมีรองเท้าหรือเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่สบายเก็บไว้ เป็นการเปลืองเนื้อที่ในตู้เสื้อผ้าโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อซื้อรองเท้ามาใหม่ ให้ลองใส่เดินไปมาในบ้านดู เพราะบางร้านสามารถนำไปเปลี่ยนได้ ดังนั้นถ้าลองใส่เดินแล้วรู้สึกเจ็บ ก็นำกลับไปที่ร้านแล้วเปลี่ยนเป็นคู่ที่ใส่แล้วสบายกว่า

1024 1017 admin csb

การเลือกใส่เสื้อโปโล

เสื้อโปโลสำหรับสวมใส่ทำงาน
ณ.ยุคสมัยปัจจุบันมีการสั่ง ผลิตเสื้อโปโล เป็นแบบฟอร์มพนักงาน เพื่อความสะดวกในการสวมใส่มาทำงาน

รวมทั้งยังลดภาระเรื่องการแต่งกายของพนักงานได้มากเพราะเสื้อโปโลสามารถเลือกใส่กับกางเกงหรือกระโปรงได้ทุกแนว แค่เลือกดีไซน์ลวดลายและสีให้ดูเหมาะสมกับการทำงาน ตัวอย่างเช่น เสื้อโปโลสีพื้นเข้มอย่าง สีดำ , น้ำเงิน , กรมท่า , เทา , น้ำตาล จะได้รับความนิยมมาก เพียงแค่มีโลโก้เล็กๆ หรือ มีลายปัก ลายสกรีน ชื่อ องค์กร หน่วยงานของรัฐ บริษัทมหาชน บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกชน ร้านค้าต่างๆ ติดไว้ก็สามารถทำให้ดูดีและเหมาะกับการใช้เสื้อโปโลเป็น ยูนิฟอร์ม ได้ หรือ บางที่บางแห่งเลือกใช้สีอื่น ๆให้กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศ การทำงานที่ออฟฟิศซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจนั้น ๆ

อย่างไรก็ตามมีบางสถานที่ อนุญาตหรืออนุโลมให้พนักงานใส่เสื้อโปโลมาทำงานได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ยูนิฟอร์มที่แสดงสัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้น ผู้สวมใส่ก็ควรเลือกโทนสีแนวสุภาพไม่มีลวดลาย หรือ มีแค่โลโก้แบรนด์เสื้อเล็กๆ และเลือกใส่กับกางเกง แบบที่สุภาพเหมาะกับการทำงานนำมาประยุกต์ใช้เป็นชุดทำงานได้เช่นกัน

เสื้อโปโลสำหรับสวมใส่ในวาระโอกาสต่างๆ
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า เสื้อโปโลสามารถใช้สวมใส่ได้ในวาระโอกาสต่างๆได้หลากหลายเพราะยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลงและสภาพเศรษฐกิจที่อะไรๆก็แพงขึ้น ทำให้เรื่องของแฟชั่นเสื้อผ้าต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มนิยมกันเลือกให้นำไปใช้ได้ในหลายวาระโอกาสต่างๆ และเสื้อโปโลก็เป็นหนึ่งในนั้น แค่เลือกสีและลวดลายให้เหมาะสมกับโอกาสก็สามารถใส่ออกงานต่าง ๆได้

หากแต่งานนั้น ๆไม่เน้นความเป็นพิธีมากนักเช่น งานศพ , นัดพบลูกค้า , งานแต่ง (แนวสบายๆไม่เน้นธีมหรือพิธีการหรู) งานบวช และอื่นๆ แค่เลือกโทนสีที่ดูเหมาะกับงาน ก็สามารถช่วยให้ประหยัดงบในการแต่งตัวได้มากขึ้น ซึ่งการเลือกซื้อเสื้อโปโลติดตู้เสื้อผ้าไว้ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่นิยมกันในปัจจุบัน ทั้งนี้การเลือกซื้อเสื้อโปโลใช้สวมใส่ในวาระโอกาสต่างๆนั้น ควรเลือกซื้อเสื้อโปโลโทนสีพื้นเป็นหลักเช่น ดำ , ขาว , กรมท่า , เทา หรือหากจะเน้นใส่ไปงานสังสรรค์ต่างๆก็เลือกโทนสีสว่างๆสดใส แต่ดูเรียบร้อยก็สามารถใช้แทนเสื้อผ้าแฟชั่นตามยุคตามสมัยได้อีกด้วย

1024 1024 admin csb

เทคนิคการแต่งกายชุดเดรสให้ดูอ่อนกว่าวัย

สำหรับผู้หญิงนั้น เสื้อผ้าแฟชั่นหรือชุดเดรสต่างๆนั้น นอกจากจะช่วยทำให้คุณดูสวยแล้ว ยังสามารถทำให้คุณดูเด็กลงได้อีกด้วย ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ก็ต้องยิ่งใส่ใจเรื่องการแต่งตัวมากขึ้นด้วย วันนี้เรามาลองดูเทคนิคการแต่งตัว ที่จะทำให้คุณดูอ่อนกว่าวัยกัน

1. เปิดใจรับไอเดียการแต่งตัวแบบใหม่ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในขั้นแรก อาจจะลองสังเกตดูในทีวีหรือแมกาซีนต่างๆ ว่าแฟชั่นเทรนด์ขณะนี้ นิยมสไตล์แบบไหน คุณคงไม่จำเป็นต้องแต่งให้เหมือนซะทีเดียว แต่นำไอเดียแฟชั่นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตัวเรา

2. ลองเข้าไปดูร้านเสื้อผ้าที่สาววัยรุ่นกำลังนิยม ทั้งในย่านสยามสแควร์ เซ็นทรัลเวิร์ด หรือตามห้างอื่นๆ ใกล้บ้าน แล้วแต่สะดวก อยากจะสวยแบบสาวอ่อนวัย ก็ต้องลองดูว่าการแต่งตัวของสาววัยรุ่นนั้น มีดีไซน์หรืออินเทรนด์อะไรอยู่

3. เลือกซื้อชุดเดรสหรือเสื้อผ้าวัยรุ่น ที่กำลังเป็นที่นิยม เช่นดีไซน์ลายกราฟฟิค แนววินเทจ หรือลายดอกไม้ มาลองใส่ดูซัก 1-2 ชุด แล้วลองเอามาใส่ดูว่าเข้ากับเรามั้ย ใส่แล้วคนอื่นรอบข้างมีคอมเมนต์ว่าอย่างไร

4. ลองสลับจับคู่ชุดกระโปรง เสื้อ กางเกง ท่อนบน ท่อนล่าง ในสไตล์แบบต่างๆ อาจจะต้องอาศัยการเรียนรู้ สังเกตดีไซน์การแต่งตัวของสาววัยรุ่น เพื่อนำมาปรับใช้กับชุดเสื้อผ้าที่เรามีอยู่

5. ลองใส่ชุดสไตล์วัยรุ่น แต่เน้นโทนสีขาวหรือดำ เพื่อให้ดูเรียบง่ายขึ้น ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เป็นเทคนิคกระชากวัยอีกแบบ โดยปกติสีโทนขาวหรือดำ เป็นสีคลาสสิค ช่วยให้เรามั่นใจที่จะแต่งตัวตามเทรนด์ได้ง่ายขึ้น

6. เพิ่มอุปกรณ์ในการแต่งตัว เช่นเสื้อคลุม ผ้าพันคอ สร้อยคอ หรือแม้แต่กระเป๋าถือ ลองจัดให้เป็นดีไซน์ทันสมัย เข้ากับชุดเสื้อผ้าเดิมของเรา ก็เป็นการเกาะกระแสแฟชั่นได้อย่างดี

7. สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าพยายามแต่งตัวให้เกาะกระแสวัยรุ่นมากเกินไป เพียงแค่ให้ดูดีมีสไตล์ในแบบของคุณ และแต่งเติมความทันสมัยเข้าไป เพื่อเพิ่มความั่นใจและกระชากวัยแบบพอดีๆ