CSB
วิธีการซักเสื้อโปโลให้สามารถใส่ได้นาน ๆ นั้นง่ายนิดเดียว
1.ใส่เสื้อลงถุงซักผ้าก่อนซัก
2.เลือกซักมือจะดีที่สุด
3.นำด้านในของเสื้อออกมาก่อนซัก
4.ไม่ใช่น้ำร้อนในการซักเพราะจะทำให้เสื้อหด
5.สำคัญคือการเลือกเนื้อผ้าที่ใช้ในการผลิต
ชุดออกกำลังกายมีเนื้อผ้าเฉพาะจึงต้องดูแลให้ถูกวิธี เคล็ดลับในการทำความสะอาดชุดออกกำลังกายตัวโปรด เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และช่วยเรื่องสุขอนามัยที่ดี
เคล็ดลับ 1
นำชุดออกกำลังกายแพ็กใส่ถุงสุญญากาศแล้วนำไปแช่ในช่องฟรีซ 20 – 30 นาทีก่อนนำไปซัก ความเย็นจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้
เคล็ดลับ 2
แช่ชุดออกกำลังกายลงในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู ½ ถ้วย 15 – 30 นาที ก่อนนำไปซัก
เคล็ดลับ 3
ซักชุดออกกำลังกายด้วยผงซักฟอกหรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีประสิทธิภาพในการช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรีย “ลดกลิ่นอับ” หรือผสมเบคกิ้งโซดาลงไปเล็กน้อยร่วมกับการซักปกติ
เทคนิคการแก้ไขปัญหาช่วง “คอ”
การเลือกเสื้อให้เข้ากับตัวเอง ไม่ได้มีเพียงแค่ “สี รูปทรง เนื้อผ้า” เท่านั้น แต่การเลือกซื้อเสื้อให้รองรับกับ “คอ” ของคุณก็เป็นเทคนิคที่ช่วยให้คุณดูดีขึ้นได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
ผู้ที่มีช่วงคอสั้น ควรเลือกสวมเสื้อที่คอกว้างหรือเสื้อแนวเปิดไหล่ เพื่อลำคอดูกว้างขึ้น
ผู้ที่มีช่วงคอที่ใหญ่ ควรเลือกเสื้อคอตั้งแบบเปิดเหมือนเสื้อคอจีนหรือคอวี เพื่อให้ช่วงคอดูยาว ไม่อึดอัด
ผู้ที่มีช่วงคอยาว ควรเลือกใส่เสื้อคอกลม เสื้อเชิ๊ตปกตั้ง เสื้อคอเต่าปิดคอ เพื่อให้ช่วงคอดูสั้นลง
เทคนิคการจัดแต่ง “ทรงผม” ให้เข้ากับชุด
การจัดแต่งทรงผมให้เข้ากับชุดที่จะใส่ก็มีส่วนช่วย “เปลี่ยน” บุคลิกของคุณได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
เมื่อต้องไปงานพิธี พบปะผู้ใหญ่ ผู้หญิงควรแต่งตัวมิดชิด ใส่เดรสหรือกระโปรงคลุมหัวเข่า เกล้าเก็บผมให้เรียบร้อย ส่วนผู้ชายควรใส่เสื้อเชิ๊ต กางเกงสแล็ค ใช้เจลตัดแต่งทรงผม หวีปาดไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยให้ดูสุภาพยิ่งขึ้น และอย่าลืมเลือกสีชุดให้เหมาะกับกาลเทศะของงานด้วย
เมื่อไปงานรื่นเริง งานมงคล เลือกใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส แต่คงความสุภาพกึ่งทางการไว้ เพื่อให้เกียรติแก่เจ้าภาพ โดยสามารถเลือกจัดแต่งทรงผมที่คุณมั่นใจหรือปล่อยผมตามทรงธรรมชาติก็ได้
เทคนิครองเท้า 3 โทนสี
คุณไม่จำเป็นต้องซื้อรองเท้าหลายคู่ แต่เลือกรองเท้า 1 ใน 3 โทนสีนี้ติดตู้ไว้ เพราะสามารถสวมใส่ไปได้ทุกงาน และช่วยลดจำนวนรองเท้าที่ไม่จำเป็นไป โดยโทนสีรองเท้าที่ควรมีติดตู้ คือ
สีดำ สำหรับวันทำงานหรือวันที่ต้องการการแต่งตัวแบบเรียบร้อยทางการ
สีขาวหรือสีครีม สำหรับเสื้อผ้าสีขาว แมทซ์ได้กับเสื้อผ้าทุกสี ดูสุภาพ เรียบร้อย
สีน้ำตาล สำหรับวันที่สวมเสื้อผ้าแบบ Casual ในโทนสีต่างๆ ในวันทำงานหรือวันหยุดพักผ่อน
เทคนิคการเลือกเครื่องประดับ ให้เหมาะกับบุคลิก
การแต่งตัวแต่ละวันจะมีจุดประสงค์แตกต่างกันไป คุณควรมีเครื่องประดับอย่างน้อย 2-3 เซ็ทติดตู้ไว้ เช่น นาฬิกา แหวน ต่างหู สร้อยข้อมือ สร้อยคอ โดยเลือกรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อใช้ในแต่ละโอกาส ดังนี้
เครื่องประดับมุข สำหรับงานทางการ ต้องการความสุขุม
เครื่องประดับที่มีความแวววาว เช่น เพชร พลอย คริสตัล สำหรับงานกลางคืน
เครื่องประดับชิ้นเล็ก สำหรับงานปาร์ตี้ งานกลางวัน หรือใส่เดินเล่นวันพักผ่อน
ที่สำคัญไม่ควรเลือกแบบที่แฟชั่นเกินไป ควรเลือกแบบคลาสสิก เพราะจะทำให้ใช้ได้นาน ไม่ล้าสมัย เทคนิคนี้นอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องประดับที่ไม่จำเป็นได้แล้ว ยังช่วยลดขั้นตอนการแต่งตัวได้อีกด้วย
เทคนิคการเลือก “โทนสี” เสื้อผ้า
ในทางจิตวิทยา “สี” มีผลต่ออารมณ์และความตื่นตัวของร่างกาย ดังนั้นก่อนเลือกสวมใส่เสื้อผ้า ควรเลือกโทนสีที่สร้างความกระปรี้กระเปร่าให้กับตัวคุณหรือเลือกสีให้เข้ากับสถานการณ์ งาน กาลเทศะ ณ ขณะนั้น ซึ่ง “สี” แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
สีโทนร้อน ให้ความรู้สึกสว่าง ตื่นตัว สดชื่น สดใส สบายตา เช่น สีเขียว สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีทอง สีชมพู เหมาะกับการใส่ไปงานมงคล งานแสดงความยินดี งานรื่นเริงต่างๆ
สีโทนเย็น ให้ความรู้สึกเงียบขรึม สงบ หนักแน่น เช่น สีเทา สีดำ สีน้ำเงิน สีกรม เหมาะกับงานที่เป็นทางการ งานไว้อาลัย งานพิธีที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
สาเหตุของการขั้นราเนื่องมาจาก เสื้อของท่านเปียกชื้น ไม่แห้งสนิท อย่างกรณีที่คุณกลับมาจากข้างนอกซึ่งเสื้ออาจจะเปื้อนเหงื่อ หรือบางทีก็โดนละอองฝน ในที่นี้อาจจะไม่เปียกโชกนะคะ ไม่เพียงความชื้นเท่านั้น เมื่อกลับเข้าบ้านคุณก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเอาเสื้อผ้าที่เพิ่งจะสวมกลับมา นั้นยัดลงตะกร้ารอซักในวันต่อไป บางรายก็นำผ้าเปียกยัดลงตะกร้าผ้าเลย นี่คือสาเหตุของการขึ้นรา
ผ้าเช็ดตัวก็มักขึ้นราง่ายเพราะจะเปียกชื้นอยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่คุณบอกว่าซักเองกับมือ หรือซักเครื่องแล้วอบพร้อมเรียบร้อยแล้วทำไมยังขึ้นราอีก อันนั้นก็บอกได้ว่าคุณไม่ตากแดดให้แห้งสนิท และที่อบอยู่ในเครื่องคุณก็ต้องนำเอาออกมาผึ่งแดดผึ่งลมบ้าง ก่อนที่จะนำไปรีด ไม่อย่างนั้นก็จะเก็บความชื้นเอาไว้ เมื่อนำไปแขวนหรือพับซ้อนๆกันในตู้ ทีนี้ล่ะเอาอากาศที่ไหนถ่ายเท เสื้อผ้าก็ย่อมเกิดความชื้น เชื้อราที่รอจังหวะอยู่แล้วก็มาเยือนทันที
การแก้การเกิดเชื้อรา ทำได้ง่ายๆ เท่านั้นเอง ก็แค่คุณนำเสื้อผ้าเหล่านั้นไปแช่น้ำ สักครู่จากนั้นก็บีบน้ำมะนาวสดๆ นี่แหละค่ะลงไปตรงที่มีเชื้อราอยู่ แล้วซักอีกครั้งตามปกติขยี้ตรงที่ขึ้นราหน่อย เพียงเท่านี้ตรงที่ขึ้นราก็จะหลุดออกได้ง่ายดายยิ่งขึ้น เสื้อสวยราคาแพงก็ได้ใช้กันต่อไป
– ลองเลือกเสื้อที่มีดีเทลเยอะๆ อย่างมีโบว์เล็กๆ มีระบายช่วงหน้าอก หรือเสื้อ
แขนตุ๊กตาก็ได้ค่ะ
– สำหรับสาวๆ ที่ตัวผอมมากๆ ลองใส่คาร์ดิแกนหรือแจ็คเก็ตทับอีกตัว ก็เท่ไม่
เบาเหมือนกันค่ะ
– เลือกใส่เสื้อผ้าสีสว่างๆ อย่างสีขาว สี
ฟ้า ชมพู สีเหลือง หรือสีพาสเทลก็ได้
– สาวๆ คนไหนที่มีช่วงตัวยาว พี่เตย
แนะนำว่าให้ลองเสื้อก่อนทุกครั้งที่ซื้อ
เพราะบางตัวอาจจะสั้นเกินไปสำหรับ
สาวๆ ที่ตัวสูงค่ะ
– ลองหาชุดจั๊มสูทใส่ดูค่ะ เลือกชุดที่จั๊ม
ตรงเอว เพื่อเน้นให้ช่วงเอวดูมีมิติมาก
ขึ้น
– เลือกชุดที่เป็นลายขวางเพื่อช่วยให้
สาวๆ ดูมีเนื้อมีหนังมากขึ้น
– สาวๆ รูปร่างผอมสูงแบบนี้เลือกใส่ Flat
Shoes ดีกว่าค่ะ เพราะถ้ายิ่งใส่รองเท้า
ส้นสูง จะยิ่งทำให้ดูตัวผอมสูงมาก
เข้าไปอีก
– หาเสื้อน่ารักๆ ใส่กับกระโปรงบานๆ
หรือกระโปรงพลีท จะทำให้สาวๆ ดูมี
สะโพกมากขึ้น
– รูปร่างผอมและสูงแบบนี้เหมาะกับการใส่ Maxi Dress เป็นที่สุดค่ะ
– ผอมๆ แบบเรา ใส่กางเกงยีนได้ง่ายค่ะ สกินนี่ยีนก็ได้ หรือจะใส่กางเกงยีนขา
เดฟเอวต่ำก็ได้เช่นกันค่ะ อ้อ.. สาวๆ รูปร่างผอมสูงจะใส่เอวสูงก็ได้เหมือนกัน
นะ เรียกได้ว่าสามารถใส่ได้ทุกแบบเลย
-หากเสื้อผ้าเปื้อน ก็ให้ใช้สเปรย์ฉีดผม ฉีดบริเวณที่เปื้อนเพื่อตรึงสิ่งที่เปื้อนไม่ให้เข้าไปในเนื้อผ้าจากนั้นก็ซักล้างออกตามปกติ
–
เปื้อนยา กำลังกินยาแล้วทำยาหกรดเสื้อ ให้ใช้น้ำเย็นๆ ล้างออก จากนั้นซักผ้าตามปกติ
-เปื้อนเบียร์ กำลังซดเบียร์หรือกำลังรินเบียร์ให้สุดที่รัก แต่เบียร์เจ้ากรรมดันหกรดเสื้อผ้า ให้คุณรีบใช้ผ้าชื้นๆ ถูออกโดยเร็ว หรือใช้น้ำล้างออก จากนั้นซักผ้าตามปกติ
-เปื้อนเลือด เนื่องจากเลือดมีโปรตีน จึงไม่ควรใช้น้ำร้อนเช็ดล้าง ควรใช้น้ำเย็นและสบู่ล้างออก หากเป็นผ้าไหม ให้ใช้แอลกอฮอล์ค่อยๆ เช็ดอย่างระวัง
-เปื้อนน้ำดำ ให้ใช้ผ้านุ่มกับน้ำสบู่เช็ดถูออก หรือใช้ผ้าชื้นเช็ด จากนั้นซักผ้าตามปกติ
-เปื้อนน้ำยาดับกลิ่นตัว สาวๆ หนุ่มๆ มักมีปัญหากับการที่น้ำยาดับกลิ่นตัวเปื้อนติดเสื้อผ้า โดยเฉพาะรักแร้ วิธีแก้ไขก็คือ ให้ใช้น้ำส้มสายชูเจือจางล้างบริเวณที่เปื้อนออกโดยใช้มือ จากนั้นซักผ้าได้ตามปกติ
แนวความคิดการผลิตเสื้อทีเชิร์ตมาจาก ชั้นใน ซึ่งพัฒนามาจากเสื้อชั้นใน เสื้อนั้นมีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ และค่อยๆ ได้รับความนิยม จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ต้นกำเนิดของทีเชิร์ตก็ได้เกิดขึ้น โดยมีการอ้างสถานที่เกิดอย่างน้อยก็ในแคลิฟอร์เนีย และ สหราชอาณาจักร ในช่วงราวปี 1913 ถึง 1948 ซึ่งในช่วงนั้นได้มีการพัฒนาไปอย่างช้า ๆ
จากข้อมูลหลาย ๆ แห่ง มีการอ้างว่า สถานที่ ๆ เป็นต้นกำเนิดแนวความคิดของทีเชิร์ตจริง ๆ เห็นจะเป็นที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อทหารอเมริกัน ได้สังเกตว่า ทหารยุโรปได้ใส่เสื้อในจากผ้าฝ้ายเบา ขณะที่ทหารอเมริกันเปียกเหงื่อกับชุดที่ทำจากขนสัตว์ ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ได้เปลี่ยนมาใช้ผ้าฝ้าย ซึ่งสะดวกสบายขึ้นและได้รับความนิยมในหมู่ชาวอเมริกัน เพราะเนื่องจากรูปลักษณ์ของเสื้อจึงได้เรียกว่าเสื้อ ทีเชิร์ต (T-shirt) ที่มาขอชื่อนั้น ไม่ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่จะมาจากรูปร่าง ของเสื้อที่มีลัษณะเป็นตัว “T” และชัดเจนขึ้นเมื่อในกองทัพเรียกเสื้อนี้ว่า “training shirt” (เสื้อสำหรับฝึก)
ในปี 1932 ฮาวเวิร์ด โจนส์ขอให้บริษัทผลิตกางเกงในอย่าง จ็อกกี้ ผลิตเสื้อที่ซับเหงื่อสำหรับทีม ยูเอสซี ฟุตบอล ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นทีเชิร์ตยุคใหม่[1] ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีเชิร์ตได้กลายเป็นเสื้อมาตรฐานทั่วไป ในกองทัพสหรัฐอเมริกาและนาวิกโยธิน ถึงแม้ว่าทีเชิร์ตจะเป็นชั้นใน แต่ทหารส่วนใหญ่ก็มักจะใส่โดยไม่มีเสื้อเชิร์ตนอก และด้วยเหตุที่ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณะบ่อยขึ้น ที่นายทหารใส่เสื้อทีเชิร์ตกับกางเกงขายาว และเป็นที่ยอมรับทีละน้อย จนเมื่อนิตยสารไลฟ์ ฉบับวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1942 ขึ้นหน้าปกทหารที่ใส่เสื้อทีเชิร์ต และเขียนข้อความว่า “Air Corps Gunnery School”[2]
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทีเชิร์ตได้ปรากฏโดยไม่มีเสื้อเชิร์ตนอกคลุม ในปี 1948 ผู้สมัครประธานาธิบดี โธมัส อี. ดีวเวย์ ผลิตเสื้อเชิร์ต “Dew It for Dewey” ขึ้น ได้รับการบันทึกว่าเป็นเสื้อยืดสกรีนตัวหนังสือตัวแรก (ปัจจุบันเก็บไว้อยู่ที่สถาบันสมิทโซเนียนของอเมริกา)[3] และต่อมาในปี 1952 ก็ได้ผลิตทีเชิร์ต “I Like Ike” เพื่อสนับสนุน Dwight D. Eisenhower และจอห์น เวย์น,มาร์ลอน แบรนโด และเจมส์ ดีน ก็ได้ใส่เสื้อตัวนี้ปรากฏตัวในโทรทัศน์ด้วย ซึ่งเป็นที่ตกตะลึงของประชาชน จนกระทั่งในปี 1955 จึงเป็นที่ยอมรับ
ในปัจจุบันเสื้อยืดมักสกรีนข้อความและลวดลายเพื่อให้เหมาะสมกับความเชื่อ รสนิยมของผู้สวมใส่ เช่นเสื้อยืดวงดนตรีต่างๆ และเนื่องจากราคาถูกและสามารถทำได้ง่ายจึงมักทำเป็นของที่ระลึก ของแจกของแถม ของขวัญ เป็นที่ประชาสัมพันธ์ ที่โฆษณา ส่วนข้อความที่ได้รับความนิยมในการเขียนบนทีเชิร์ต เช่น “ฉันหัวใจเอ็นวายซี” รวมถึงลายล้อเลียนต่างๆ ที่ตามมา หรือข้อความ “staying alive” ที่ได้รับความนิยมช่วงหนึ่งในกรุงเทพ[3]
เสื้อทีเชิร์ตมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นในแบบลวดลายต่างๆเช่น ลายการ์ตูน ลายดอกไม้ ลายรูปดารา ลายธรรมชาติ และอื่นๆอีกมากมายและเป็นที่นิยมในทุกสมัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ วัยไหนๆก็สวมใส่ได้เพราะเสื้อยืดจะมีราคาถูกไม่แพงมากนักสามารถหาสวมใส่ได้ง่ายโดยทั่วไป
1. เลือกใส่กางเกงสีดำ หรือสีเข้ม
การใส่กางเกงสีดำ หรือสีเข้มๆ จะช่วยอำพรางขาใหญ่ๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ ซึ่งกางเกงสีทึบๆ จะช่วยปกปิดช่วงขา ทั้งยังหลอกตาคนได้ดีอีกด้วย
2. ใส่กางเกงทรง Culotte หรือขาบาน
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า การใส่กางเกงทรงขาบานจะยิ่งทำให้ขาดูใหญ่ขึ้น แต่คิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะกางเกงทรงขาบาน จะยิ่งทำให้ช่วงขาดูเพรียวขึ้น ยิ่งถ้าเป็นเอวสูงด้วยล่ะก็ จะยิ่งทำให้ดูขายาวขึ้นด้วย
3. ใส่กางเกงเอวสูง ดีกว่ากางเกงเอวต่ำ
การใส่กางเกงเอวสูง นอกจากจะทำให้ขาดูยาวขึ้นได้แล้ว ยังช่วยอำพรางต้นขาให้ดูเล็กอีกด้วย
4. ใส่กางเกงหรือกระโปรงยาว ที่ผ่าหน้าหรือผ่าข้าง เพิ่มความเรียวยาว
ไอเท็มที่ผ่าหน้าหรือผ่าข้าง นอกจากจะช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ได้แล้ว ยังช่วยเผยเรียวขาเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งการเผยเรียวขาแบบนี้นี่ล่ะค่ะ ช่วยให้ขาดูเล็กกว่าเดิม
5. ถ้าชอบใส่ขาสั้น ให้เลือกที่ขากางเกงกว้างกว่าต้นขา
สำหรับสาวบางคนที่ไม่ชอบใส่ขายาวสักเท่าไหร่ หรืออยากใส่ขาสั้นให้สวยเหมือนคนอื่นบ้าง แนะนำว่า ให้เลือกขาสั้นที่ช่วงขาหลวมกว่าต้นขาของเราค่ะ เพราะถ้าใส่กางเกงที่พอดีต้นขาหรือรัด จะยิ่งทำให้ขาดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
6. ใส่รองเท้าส้นสูง หรือมีส้นขึ้นมาเล็กน้อย
การใส่รองเท้าส้นสูงต้อบอกว่าช่วยได้เยอะค่ะ เพราะส้นสูงจะทำให้ช่วงขาเราดูยาวขึ้น ซึ่งแน่นอนว่านั่นก็ทำให้ขาเราดูเล็กลงเช่นกัน ถ้าไม่อยากใส่สูงมากๆ จะหาเป็นรองเท้าที่มีเสริมส้นสัก 1-2 นิ้ง ก็ได้เช่นกัน
1. กระโปรงทรงดินสอ
การเลือกกระโปรงเอวสูงทรงดินสอ แต่ต้องเลยหัวเข่าลงมาหรือสั้นเลยหัวเข่าได้นิดหน่อย จะช่วยให้คุณดูดีขึ้น อย่าเลือกกระโปรงสั้นเพราะไม่เหมาะกับวัย สีสามารถเป็นสีอะไรก็ได้ยกเว้นสีนีออน
2. กางเกงสีเรียบ
มาถึงชิ้นที่สอง คือ กางเกง ควรเป็นกางเกงสีเรียบ ไม่มีลวดลายหรือสีสันใดๆ แต่สามารถเลือกเข็มขัดสีสวยๆ มาเพิ่มความชิคได้
3. กางเกงมีลาย
แต่หากอยากเพิ่มความสดใสในบางวัน สามารถเลือกสวมใส่กางเกงลายพิมพ์ แต่ไม่ควรมีสีเกิน 3 สี ในตัวเดียวกัน
4. โทนสีพาสเทล
โทนสีพาสเทลอ่อนๆ จะทำให้คุณดูเด็กลง โดยเฉพาะสีฟ้า รวมถึงสีอื่นๆ อย่าง สีเบจ งาช้าง น้ำตาล ขาว และเทา ควรหลีกเลี่ยงสีเหลืองเข้าไว้
5. ส้นรองเท้าไม่สูงมาก
การเลือกซื้อรองเท้าควรคำนึงถึงความสบายเท้า แนะนำให้ซื้อรองเท้าส้นสูงแค่ประมาณ 1-2 นิ้ว แต่ถึงอย่างนั้น ควรมีส้นสูงกว่าหน่อย สัก 1-2 คู่ ไว้สำหรับออกงาน
6. เพิ่มเครื่องประดับชิ้นใหญ่
ถึงแม้จะเน้นเสื้อผ้าแนวคลาสสิค แต่เครื่องประดับก็อย่าได้ขาด อาจสวมหมวกปีกกว้าง สร้อยคอ และติดเข็มกลัดขนาดใหญ่ไว้บนปกเสื้อ เป็นต้น
1.เสื้อ
-เสื้อคอวี ไม่เหมาะกับคนอ้วน
-เสื้อคอวี เหมาะกับคนศีรษะโต หรือช่วงคอสั้น
-เสื้อลายทางยาว ๆ ช่วยพรางหุ่นอวบอ้วนให้เพรียวขึ้น
-เสื้อเชิ้ต ช่วยให้ดูเป็นผู้หญิงทำงานที่ปราดเปรียวขึ้น
2.กระโปรง
-กระโปรง สะโพกใหญ่ควรสวมกระโปรงยาวระดับเข่าเข้ารูป -ไม่ต้องบาน
-หน้าท้องย่น ควรปิดด้วยกระโปรงสีเข้ม ทรงสอบ ๆ ตรง ๆ
-เสริมให้ดูช่วงขายาวด้วยกระโปรงสั้น ๆ เหนือเข่า
-ขาเล็กเกินไป ไม่ควรสวมกระโปรงสอบ ๆ ควรนุ่งกระโปรงบานย้วย
3.กางเกง
-กางเกง ถ้าอ้วนไม่ควรสวมกางเกงเอวรูด จะยิ่งดูอ้วน
-อยากหุ่นเพรียว ควรสวมกางเกงเข้ารูป ไม่ใส่ทรงหลวม
-ถ้าไม่มีก้น ควรเลือกกางเกงลาย ๆ และไม่รัดรูป
-ต้องการพรางบั้นท้าย เลือกกางเกงที่มีกระเป๋าด้านหลัง